หากพูดถึงเรื่องการลงทุน หลายคนคงจะนึกถึงผลตอบแทนจากการลงทุนที่ควบคู่มากับอัตราความเสี่ยงสูง แต่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่คล่องตัวแบบนี้ ความเสี่ยงจากการลงทุนที่ผู้ลงทุนจะต้องเผชิญ ก็คงเป็นเรื่องที่เหล่าผู้ลงทุนไม่ค่อยอยากจะรับมือด้วยสักเท่าไหร่ แต่แท้จริงแล้ว การลงทุน ไม่ได้มีแค่การซื้อหุ้นที่มีราคาแปรผันตามตลาดหุ้นเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลากหลายตัวเลือกในการลงทุน ให้คุณเลือกลงทุนได้เหมาะสมที่สุด และเราได้รวบรวมตัวเลือกการลงทุน เพื่อให้คุณพิจารณาได้ง่ายขึ้นว่า คุณเหมาะกับการลงทุนแบบไหน?
1. ฝากเงินกับธนาคาร
ตัวเลือกนี้คงเป็นการลงทุนที่ทุกคนคุ้นเคย แต่อาจจะยังไม่รู้ว่าการฝากเงินก็เป็นหนึ่งในประเภทการลงทุนเช่นกัน และถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยการฝากเงินนี้รวมทั้ง การฝากแบบออมทรัพย์ ฝากประจำ และการซื้อสลากออมสิน ซึ่งโอกาสที่จะสูญเสียเงินต้นไปนั้นมีน้อยมากๆ แต่อาจจะได้รับผลตอบแทนน้อยกว่าการลงทุนประเภทอื่นด้วยเช่น เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความเสี่ยงสูงและต้องการเห็นผลในระยะสั้นๆ คนที่เพิ่งเริ่มวางแผนการเงิน และต้องการความมั่นคงในการบริหารจัดงาน
2. ซื้อทองคำ
เป็นการลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการฝากเงินเล็กน้อย เพราะการลงทุนประเภทนี้หากไม่ศึกษา หรือติดตามข่าวสารให้ดี ก็อาจจะทำให้ได้เงินต้นคืนไม่ครบ หรือไม่ได้คืนเลย การซื้อทองคำที่มีราคาแปรผันตามกลไกการตลาด ผู้ที่ต้องการลงทุนในการซื้อทองคำ ควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับราคาทองคำที่มีการเปลี่ยนแปลงแทบจะทุกวัน ศึกษาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อ-ขาย และควรพิจารณาสภาพคล่องทางการเงินและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ เพราะหากมีความจำเป็นต้องใช้เงินในเวลาที่ราคาทองคำลดต่ำมาก ก็จะเป็นการขาดทุนไปอย่างน่าเสียดาย
3. ซื้อตราสารหนี้ หรือปล่อยเงินกู้
เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่มีความเสี่ยงเทียบเท่ากับการซื้อทองคำ ซึ่งหากคุณต้องการลงทุนในตราสารหนี้ หรือปล่อยเงินให้กู้ ควรจะพิจารณาความน่าเชื่อถือ สภาพคล่อง และตรวจสอบประวัติของบุคคล หรือองค์กรที่ต้องการลงทุน/ปล่อยกู้ให้ก่อนเสมอ และผู้ลงทุนเองก็ควรมีความรู้และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับตราสารหนี้และการปล่อยกู้ด้วยเช่นกัน
4. กองทุนรวม
การลงทุนประเภทนี้เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงในระดับปานกลาง แต่เราจะไม่สามารถเข้าไปควบคุมใดๆ ได้ เพราะกองทุนรวมเป็นการระดมเงินลงทุนจากผู้ลงทุนหลายๆ คนเพื่อนำไปบริหารจัดการให้ธุรกิจนั้นเกิดรายได้และผลกำไร ซึ่งการจัดการทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับองค์กรที่เรานำเงินไปลงทุนด้วย โดยกองทุนรวมจะเป็นผู้แบ่งผลประโยชน์ตามสัดส่วนที่ควรจะได้รับด้วยตัวเอง เหมาะกับคนที่อยากได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่ไม่มีเวลามาจัดการหรือดูแลด้วยตัวเอง แต่ทั้งนี้ ผู้ลงทุนก็ควรตรวจสอบและพิจารณาองค์กรที่เลือกลงทุนก่อนเสมอว่า มีความน่าเชื่อถือและมีความสามารถในการบริหารจัดการที่ดีหรือไม่
5. ทำธุรกิจส่วนตัว และซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
เป็นประเภทการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด โดยการลงทุนประเภทนี้จะต้องอาศัยความชำนาญ การวางแผนที่กว้างและรอบคอบ รวมถึงศึกษาข้อมูล และวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอ สำหรับในส่วนของการทำธุรกิจส่วนตัวนั้นก็ต้องอาศัยการวางแผน ความชำนาญ และการศึกษาข้อมูลร่วมกับการพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์กับความต้องการของคนในปัจจุบันด้วยเช่นกัน ซึ่งคนที่ต้องการมาลงทุนประเภทนี้จะต้องเป็นคนที่กล้าได้กล้าเสีย สามารถยอมรับความเสี่ยงสูงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และควรเป็นบุคคลที่มีสภาวะทางการเงินดีพอสมควร เนื่องจากหากขาดทุนในการลงทุนประเภทนี้แล้ว จะเป็นการขาดทุนจำนวนมากจนทำให้เกิดสภาวะการเงินขัดคล่องได้
ทั้งนี้ แน่นอนว่าทุกการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะระดับต่ำ ระดับกลาง หรือระดับสูง หากคุณเลือกลงทุนทั้งที่ยังไม่มีความรู้หรือเลือกลงทุนเพราะเกิดจากคำชักชวน แน่นอนว่าความเสี่ยงที่จะตามมาจากความไม่รู้ ไม่เชี่ยวชาญนั้นย่อมมีมากกว่า ดังนั้น ผู้ลงทุนควรพิจารณาความสามารถในการลงทุน และเลือกลงทุนให้เหมาะสม นอกจากนี้ผู้ลงทุนยังควรศึกษาและเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนก่อนเสมอ หรือขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การลงทุนนั้นไม่สูญเปล่า และสามารถสร้างผลกำไรตอบแทนกลับมาได้