ธุรกิจขายกันสาดโรงงาน เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีความสำคัญในวงการ อสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้าง เนื่องจากเป็นวัสดุต่อเติมที่มีประโยชน์ใช้สอยอย่างมาก โดยลักษณะเด่น คือ ช่วยป้องกันบ้านจากสภาพอากาศเลวร้ายต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างความสวยงาม และความกลมกลืนให้กับบ้านที่ออกแบบมาอย่างมีสไตล์
ซึ่งในปัจจุบันกันสาดโรงงานมีการพัฒนาด้านรูปลักษณ์ให้พร้อมรับกับบ้านสไตล์ใหม่ จึงช่วยส่งเสริมให้กันสาดเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าซื้อหา และมียอดขายเพิ่มมากขึ้น ด้วยข้อดีมากมายนี้ ทำให้การทำธุรกิจขายกันสาด เป็นกิจการที่ยืนหยัดได้อย่างมั่นคง ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสินค้าประเภทนี้มีความสำคัญ และเป็นสิ่งที่ตลาดขาดไปไม่ได้
โดยวันนี้เราจะพาทุกท่านมาเจาะลึกเกี่ยวกับธุรกิจกันสาดโรงงาน รวมถึงสำรวจกลุ่มลูกค้าที่ช่วยให้ธุรกิจนี้เจริญเติบโตได้อย่างรุ่งโรจน์ หากพร้อมแล้ว ไปดูกันได้เลย
เผยคำตอบ ใครคือกลุ่มลูกค้าที่จะซื้อ กันสาดโรงงาน ไปใช้งาน ?
กลุ่มลูกค้าที่มีค่าต่อผู้ประกอบการกันสาด นั้นมีอยู่หลากหลายกลุ่ม เนื่องจากกันสาดมีประโยชน์ทั้งด้านการต่อเติม และด้านความสวยงาม ซึ่งเป็นสองเหตุผลที่สำคัญต่อวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องมีการก่อสร้างให้สวยงาม และมีความสะดวกด้านการพักอาศัยไปพร้อม ๆ กัน
วิธีการ ต่อเติมกันสาด สำหรับต่อเติมพื้นที่
-
ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการต่อเติมบ้าน
ลูกค้ากลุ่มที่พบเจอได้บ่อยที่สุดในธุรกิจกันสาด ก็คือผู้ที่ต้องการต่อเติมบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้อยู่อาศัยในบ้านเดี่ยว มีพื้นที่สำหรับต่อเติมกันสาด โดยสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงก็คือ สไตล์บ้านและการใช้งาน โดยต้องรู้ความต้องการของลูกค้าว่าต้องการต่อเติมเพื่ออะไร แล้วจึงหาสินค้าที่ตรงความต้องการของลูกค้า
โดยส่วนใหญ่ลูกค้าที่เป็นผู้อาศัยบ้านเดี่ยว มักจะต่อเติมกันสาด บริเวณหน้าบ้าน ลานอเนกประสงค์ และพื้นที่บริเวณหน้าต่างสำหรับกันฝน และแดด ซึ่งนอกจากเรื่องการใช้งานแล้ว ยังต้องหาสินค้าหลาย ๆ แบบ เพื่อมารองรับสไตล์บ้านของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นหลังคากันสาดที่เข้ากับบ้านโมเดิร์น หรือ บ้านมินิมอล ที่ต้องการการออกแบบที่สวยงาม เรียบง่าย ดูสบายตากลมกลืนกับบ้านสไตล์ใหม่เหล่านี้
-
องค์กรต่าง ๆ ขนาดใหญ่
ถัดมา กลุ่มลูกค้าที่สำคัญ และมีกำลังซื้อจำนวนมาก ก็คือ องค์กรต่าง ๆ ที่มีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ และต้องการใช้กันสาดสำหรับการตกแต่งให้พื้นที่มีลูกเล่น รวมถึงมีการใช้งานได้จริง ตัวอย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีการใช้กันสาดโปร่งแสง เพื่อเพิ่มแสงธรรมชาติให้แก่อาคาร ช่วยทำให้พื้นที่มีความปลอดโปร่ง และช่วยเสริมสร้างการออกแบบของอาคารให้มีความโดดเด่น และน่าสนใจ
-
โรงแรม และร้านอาหาร
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องมีการก่อสร้าง และต้องสร้างรูปลักษณ์ของสถานที่ให้สวยงาม และน่าเข้าไปใช้บริการ ซึ่งกันสาดมีส่วนช่วยอย่างมากในการต่อเติมให้โรงแรม และร้านอาหารมีความโดดเด่น และเข้ากับสไตล์การออกแบบสิ่งก่อสร้าง
ไม่ว่าจะเป็นกันสาดใส หรือกันสาดโปร่งแสงที่สามารถนำไปออกแบบกับหลังคาที่พัก เพื่อให้ได้แสงที่เป็นธรรมชาติ หรือทำให้เห็นวิวท้องฟ้า และร้านอาหารสไตล์อบอุ่น สดใส ที่ต้องมีมุมให้แสงเข้า เพื่อเพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่ง และสว่าง เหมาะแก่การนั่งรับประทานอาหาร ดังนั้น ลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการโรงแรม และร้านอาหาร จึงเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ผู้ทำธุรกิจกันสาดไม่ควรมองข้าม
-
ช่างรับเหมา
และลูกค้าที่มีความสำคัญไม่แพ้กลุ่มอื่น ๆ ก็คือ ช่างรับเหมา ซึ่งเป็นลูกค้าที่ต้องพูดคุยโดยตรงกับผู้ประกอบการ เพราะมักจะเป็นผู้ที่ได้รับหน้าที่ในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้าง
ในบางครั้งก็อาจจะเป็นบริษัทรับก่อสร้าง ที่ต้องการมีอุปกรณ์ไว้สำหรับขายให้กับผู้ต่อเติมอีกทอดหนึ่ง จุดเด่นของลูกค้ากลุ่มนี้ คือ จะมีความรู้เกี่ยวกับกันสาดเป็นอย่างดี และมักจะซื้อไปในจำนวนมาก จึงถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่มีความสำคัญ จะต้องให้บริการอย่างดีเพื่อสร้างความภักดีให้กับลูกค้าในการมาซื้อกันสาดในครั้งต่อ ๆ ไป
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.d-lite.co.th/